ปรัชญาความปลอดภัยบนท้องถนน: สมองของคุณเบื้องหลังพวงมาลัย

คุณสมบัติพิเศษด้านความปลอดภัยของรถยนต์ที่อัจฉริยะที่สุด ช่วยปกป้องเราจากผู้ขับขี่คนอื่นและตัวของเราเองได้อย่างไร?

สมองของเราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน

การทำงานหลายอย่างพร้อมกันเป็นสิ่งที่ยากในการจัดการ เนื่องจากสมองของเรานั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้โฟกัสการทำงานพร้อมกันได้ในคราวเดียวกัน และการที่เราสลับการทำงานจากงานหนึ่งไปยังอีกงานหนึ่ง อาจจะทำให้สมองของเราต้องคิดสลับไปสลับมา และขาดสติได้ นักประสาทวิทยาเรียกกระบวนการนี้ว่า “การคิดสลับไปสลับมา”

สำหรับการทำงานที่ออฟฟิศนั้น การทำงานหลายอย่างพร้อมกันอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้โดยไม่ตั้งใจ แต่สำหรับในรถยนต์แล้ว ความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจนี้อาจจะก่อให้เกิดหายนะร้ายแรงได้

การขับรถที่ขาดสมาธิเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนทั่วโลก หนึ่งในปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเวลาการตอบสนองคือ ความเร็ว ที่ 88 กม./ชม. ซึ่งคุณจะต้องควบคุมและตอบสนองกับระยะทาง 1 สนามฟุตบอล โดยใช้เวลาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น

สาเหตุหลักอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนขาดสมาธิในการขับรถคือ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งกลายเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของการขับขี่ที่ขาดสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่ที่เป็นวัยรุ่น ในการศึกษาวิจัยที่ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยความปลอดภัยทางถนนแห่งมาเลเซีย พบว่า ผู้ขับขี่มากกว่า 61% มักจะเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ (ขณะที่ขับขี่รถ) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
โชคดีที่ในขณะที่ผู้ขับขี่มีแนวโน้มที่จะเสียสมาธิในการขับขี่รถมากขึ้นนั้น ก็มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นเพื่อปกป้องเราจากสิ่งที่เรากระทำ หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดคือเทคโนโลยี EyeSight ของซูบารุ ซึ่งรวมถึงระบบเบรกก่อนการชน (Pre-Collision Braking System)โดยกล้องด้านหน้าของระบบทำหน้าที่เป็นตาคู่ที่สองของเรา ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับการปรับวิทยุ และรถคันที่ขับที่อยู่ข้างหน้าคุณหยุดกะทันหัน ระบบเบรกก่อนการชนจะประเมินความเป็นไปได้ที่จะเกิดการชนทันที โดยขึ้นอยู่กับความเร็วที่คุณเข้าใกล้รถคันหน้า ด้วยเทคโนโลยี EyeSight ของซูบารุจะใช้เบรกเพื่อลดความเร็วอย่างปลอดภัยหรือหยุดรถของคุณได้อย่างสมบูรณ์

ทำไมเราไม่ค่อยเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

สมองก็เหมือนกับนักมายากลที่ทำให้ของหายไปต่อหน้าต่อตาเราได้ ลองคิดดูว่าจมูกของคุณจะเป็นอย่างไร เมื่อคุณตรวจวัดลานสายตา คุณยื่นจมูกเข้าไปในช่องการมองเห็นตรงกลาง (ซึ่งบางครั้งคุณเพิ่งรู้ตัว) และบางทีคุณแทบไม่รู้ตัวเลย แต่ด้วยการคัดกรองแบบเฉพาะเจาะจง จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสสิ่งที่สำคัญและคัดกรองสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป

แต่ในขณะที่ทัศนวิสัยกลางและการรับรู้เชิงลึกช่วยให้เราเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราได้อย่างชัดเจน แต่การมองเห็นรอบนอกของเราจะโฟกัสรายละเอียดได้น้อยลง ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเราให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า การมองเห็นรอบข้างของเราก็แทบจะหายไปด้วย

ลองนึกดูว่า คุณสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ในคราวเดียวหรือเปล่า? โดยใช้ตัวตรวจจับแบบเรดาร์วางไว้ที่กันชนหลัง ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Detection) ของซูบารุ สามารถบอกคุณได้ว่ามีรถเข้าใกล้คุณในบริเวณจุดอับสายตาหรือไม่ เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไฟเตือนบนกระจกมองข้างที่เกี่ยวข้องก็จะติดขึ้นมาเพื่อแจ้งเตือน

รถยนต์บางรุ่นมาพร้อมกับกล้องที่ติดตั้งอยู่ที่กระจกมองข้าง ซึ่งจะส่งภาพวิดีโอไปยังจอภาพตรงกลาง ซึ่งช่วยให้มองเห็นจุดอับสายตาในระหว่างการถอยจอด

สมองก็เหมือนกับนักมายากลที่ทำให้ของหายไปต่อหน้าต่อตาเราได้

จะเกิดอะไรขึ้นกับสมองของเรา เมื่อเราฝันกลางวัน

เมื่อเราฝันกลางวัน ก็เหมือนกับสมองเราถูกเข้าเกียร์ว่าง และจิตใจของเราก็ถูกปล่อยเคว้งคว้างล่องลอย และดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ทำได้มากกว่าที่คุณคิด มีการคาดว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนเราใช้เวลาครึ่งหนึ่งในช่วงที่เขาตื่นนั้นไปกับความคิดของเขา และในขณะที่เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า ฝันกลางวันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ในการสำรวจข้อมูลของคนขับรถในสหรัฐอเมริกาทั่วประเทศ พบว่าปัจจัยอันดับหนึ่งของอุบัติเหตุรถชนที่มีผู้เสียชีวิตคือ การฝันกลางวัน โชคดีที่การออกแบบรถยนต์ขั้นสูงสามารถเข้ามามีส่วนช่วยแก้ไขเรื่องนี้ได้

เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่กลับมามีสมาธิในการขับขี่ ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนตัว (EyeSight Lead Vehicle Start Alert) ของซูบารุ จะแจ้งเตือนให้คุณทราบทันที เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัวออกไป ดังนั้นรถของคุณจึงไม่กีดขวางการจราจร (หรือโดนบีบแตรใส่จากคนขับที่ก้าวร้าวที่อยู่ข้างหลังคุณ ในขณะที่คุณกำลังคิดวางแผนวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณ) นี่เป็นอีกหนึ่งในร้อยวิธีที่ซูบารุกำลังมองหาความปลอดภัยสำหรับคุณ โดยการตรวจสอบถนนรอบ ๆ ตัวคุณอยู่ตลอดเวลาซึ่งจะช่วยให้คุณมีสติและสมาธิไปที่สิ่งสำคัญที่สุด